การ์ตูน หรือที่เราเรียกันว่า “อนิเมชั่น (Animation)” ที่ต่างเป็นที่ตราตรึงของทุกๆ ท่านกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีเรื่องราวมาอย่างยาวนาน ฝ่าฝันกันอย่างถึงที่สุด มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ในหลายๆ ครั้งสำหรับวงการนี้ บทความนี้จึงอยากเป็นช่องทางความรู้ที่จะพาท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านไปพบกับ “วิวัฒนาการของอนิเมชั่น” ซึ่งเส้นทางจะเป็นเช่นไรนั้น เราไปค้นหากันดีกว่าครับ
เรื่องราวการวิวัฒนาการของ “การสร้างอมิเมชั่น”
●เริ่มจากการสร้างอนิเมชั่น 2D ในยุคเริ่มต้น (1930-1960)
กล่าวได้ว่าในสมัยก่อนนั้นการสร้างอนิเมชั่นมีความลำบาก และต้องใช้ความอดทนอย่างสูงกว่าทุกวันนี้มาก หลักๆ เลยก็คือในเรื่องของการใช้แรงงานคนที่ต้องถึกกว่าในปัจจุบันมากมาย ว่าแล้วก็มาดูวิธีในแบบยุคแรกกันเลยดีกว่าครับ ซึ่งวิธีสร้างอนิเมชั่นแบบดั้งเดิมที่ วอลท์ ดิสนีย์ ใช้ในการผลิตผลงานในช่วงห้าสิบปีแรก โดย “ตัวละครจะถูกวาดด้วยมือลงบนแผ่นเซลลูลอยด์โปร่งใสทีละภาพ” แล้วจึงนำไปลงสี ก่อนจะวางซ้อนลงบนฉากหลังและใช้กล้องบันทึกภาพแต่ละช็อตไว้ ซึ่งเมื่อนำมาฉายภาพต่อเนื่องกันด้วยความเร็วสูงก็จะเกิดเป็นภาพติดตาที่เคลื่อนไหว โดยภาพยนตร์อนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องแรกของดิสนีย์ Snow White and the Seven Dwarfs (1937) ต้องอาศัยช่างวาดกว่า 100 คน ทำหน้าที่ลอกลายเส้นที่ศิลปินร่างไว้ลงบนแผ่นเซล
●เปิดการเปลี่ยนแปลงของวงการสร้าง Animation (1993 – Today)
ส่วนแอนิเมชันในต่างประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในยุคที่เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์กำลังเฟื่องฟูโดยบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ร่วมกับบริษัทพิกซาร์ (Pixar) ได้ผลิตภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันในรูปแบบใหม่เรื่อง “ทอยสตอรี” (Toy Story) ออกฉายในพ.ศ. ๒๕๓๘ โดยใช้คอมพิวเตอร์สร้างตัวละครหรือแบบจำลองสามมิติ (three-dimensional model) ควบคุมการเคลื่อนไหวรวมทั้งให้แสง-เงา โดยมีทีมวิศวกรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการผลิตมากกว่า ๒๐๐ คน ซึ่งใช้เวลาผลิตนานถึง ๔ ปี ถือว่าเป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันเรื่องยาวที่สมบูรณ์แบบเรื่องแรกที่ผลิตขึ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งตอบรับนั้นเรียกได้ว่า “ดีอย่างถล่มถลาย” นั้นเองครับ
4 อนิเมชั่น 2D เด่นๆ ของ Disney
●Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
“เจ้าหญิงสโนว์ไวท์” ถือเป็นการ์ตูนเจ้าหญิงเรื่องแรกของดิสนีย์ และเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ใช้มือวาดลงบนแผ่นเซลล์เรื่องแรกของโลก ออกฉายในโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 1937 หรือมากกว่า 80 ปีก่อน! และประสบความสำเร็จอย่างมากในยุคนั้น
●Alice in Wonderland (1951)
อนิเมชั่นที่สร้างจากวรรณกรรมคลาสสิคเรื่อง Alice’s Adventure in Wonderland ของ ลูอิส แครอลล์ ซึ่งก่อนหน้านี้ วอลต์ ดิสนีย์ เคยนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์สั้นที่ใช้คนแสดง (live-action) มาก่อนตั้งแต่ปี 1923 และได้เริ่มนำนักแสดงหญิงสาวมาเป็นต้นแบบของตัวละคร ทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
●Sleeping Beauty (1959)
Sleeping Beauty หรือ เจ้าหญิงนิทรา ดัดแปลงจากเทพนิยายคลาสสิคเรื่อง The Sleeping Beauty ที่แต่งโดย ชาร์ลส เปอร์โรต์ เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นของดิสนีย์เรื่องแรกที่ใช้สัดส่วนภาพกว้างแบบ Wide Screen ซึ่งทำให้เห็นบรรยากาศโดยรอบมากขึ้นนั่นเอง
●101 DALMATIANS
โรเจอร์ นักออกแบบวีดิโอเกม อาศัยอยู่กับ พองโก สุนัขหนุ่มพันธุ์ดัลเมเชี่ยน โชคชะตานำพาให้เขามาพบรักกับ แอนนิต้า นักออกแบบเสื้อผ้า เจ้าของ เพอร์ดี สุนัขสาวพันธุ์ดัลเมเชี่ยนแสนสวย ทั้ง 2 ตกลงแต่งงานกัน ความรักของคนทั้งคู่ต่างผลิบานเช่นเดียวกับความรักของ พองโก และ เพอร์ดี ที่ตอนนี้ได้ให้กำเนิดโซ่ทองคล้องใจเป็นลูกสุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยนแสนซน 15 ตัว แต่ความสงบสุขของครอบครัวอันแสนอบอุ่นนี้ กลับต้องมลายหายไปเมื่อ ครูเอลลา เดอ วิล เจ้านายของ แอนนิต้า ได้มาพบกับลูกๆ ของ พองโก และ เพอร์ดี และต้องการที่จะนำขนของลูกสุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยนมาทำเป็นเสื้อคลุมลายจุดแสนสวย เธอจึงลักพาลูกๆ ของ พองโก และ เพอร์ดี พร้อมลูกสุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยนจากที่อื่นๆ รวมทั้งหมด 99 ตัว มากักขังไว้เพื่อนำขนของลูกสุนัขมาเป็นวัตถุดิบในการทำเสื้อคลุม เรื่องราววุ่นๆ สุดชุลมุนครั้งนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร พองโก และ เพอร์ดี จะสามารถช่วยเหลือลูกน้อยได้หรือไม่ ติดตามได้ใน “101 ดัลเมเชี่ยน” (101 DALMATIANS) นั้นเองครับ
และนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับ “วิวัฒนาการของอนิเมชั่น” ที่มาพร้อมกับ “4 อนิเมชั่น 2D เด่นๆ ของ Disney” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในวันนี้ เราหวังว่าจะชอบข้อมูลที่เราได้เตรียมไว้กันนะครับ
